ปัจจุบัน เหล่าผู้บริหารระดับสูงหรือแม้กระทั่ง HR หันมาให้ความสำคัญกับ Incentive กันอย่างมาก เนื่องจากต้องการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานและเพิ่มความน่าดึงดูดใจในการทำงานในองค์กร แน่นอนว่าการหันมาให้ความสำคัญกับสวัสดิการ Incentive เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในองค์กรจะมีความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันความสำคัญของการจัดการสวัสดิการพื้นฐานขององค์กรอาจลดน้อยลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การให้ความสำคัญกับสวัสดิการพื้นฐานเหล่านี้ ถือเป็นก้าวแรกในการทำให้เห็นถึงความใส่ใจ จนสามารถสร้างความประทับใจ ความภักดี และแรงจูงใจให้พนักงานต้องการทำงานต่อไปได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในองค์กร ผ่านการมอบสวัสดิการขั้นพื้นฐานอย่างครบถ้วน ก่อนที่จะมองเลยไปถึง Incentive
ความสำคัญของการสร้างแรงจูงใจพนักงานในยุคปัจจุบัน
ในโลกของการทำงานที่หมุนเร็วและแข่งขันสูงในปัจจุบัน องค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับ การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน มากกว่าที่เคย เพราะพนักงานคือ “หัวใจขององค์กร” ที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์และเป้าหมายให้เป็นจริงได้ การที่พนักงานรู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน เป็นผลลัพธ์ของการดูแลจากองค์กรอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสภาพแวดล้อม แรงสนับสนุน หรือวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร การทำให้พนักงานรู้สึกได้รับความสำคัญจากองค์กร จะส่งผลให้เกิดแรงจูงใจสำคัญ ทีมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการทำงาน ดังนี้
- พนักงานใส่ใจคุณภาพงานมากขึ้น เนื่องจากพนักงานรู้สึกว่าผลงานของตนมีความหมาย จึงเกิดเป็นแรงจูงใจในการทำงานชิ้นต่อ ๆ ไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ลดอัตราการขาดงานและลาออกของพนักงาน เพราะมีความสุขและรู้สึกผูกพันกับองค์กร
- เกิดความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพราะรู้สึกได้รับการสนับสนุนจากองค์กร ลดความตึงเครียด ช่วยสร้างแรงบันดาลใหม่ ๆ ได้ง่าย
- สร้างพลังบวกในทีม การมีแรงจูงใจที่ดี ส่งผลต่ออารมณ์และบรรยากาศในการทำงาน เมื่อพนักงานส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงาน ก็จะสามารถส่งพลังงานดี ๆ ให้แก่คนในทีม ไปจนถึงทีมอื่น ๆ ได้อย่างดี
ในทางกลับกัน หากแรงจูงใจของพนักงานลดลง จะเห็นได้ชัดว่าคุณภาพของงานและบรรยากาศในองค์กรอาจมีความเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานจึงไม่ใช่เพียงแค่การแจกโบนัส หรือตั้ง KPI แต่ต้องอาศัยการให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงาน เพื่อนำมาใช้ร่วมกับการมอบสวัสดิการได้อย่างตรงจุด
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการสร้างแรงจูงใจพนักงาน นอกเหนือจากเงินเดือน
การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงาน ทั้งผู้บริหารระดับสูงและ HR จำเป็นต้องคำนึงให้ครอบคลุมหลายด้าน เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการดูแลทั้งทางกายและใจ โดยปัจจัยสำคัญที่ควรใส่ใจเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องเงินเดือน มีดังนี้
- การยอมรับผลงานและการให้คุณค่า – คำพูดชมเชยจากหัวหน้าหรือการได้รับการกล่าวถึงในที่ประชุมใหญ่ อาจดูเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่กลับทรงพลังอย่างมาก พนักงานจะรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และเกิดความมั่นใจในการพัฒนาตนเองต่อไปในระยะยาว การรับรู้ในคุณค่าของผลงานคือหนึ่งในรากฐานของแรงจูงใจในองค์กรที่มักถูกมองข้าม
- การมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน – พนักงานส่วนใหญ่มองหาโอกาสในการเติบโตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนตำแหน่ง การได้เข้าร่วมโครงการพิเศษ หรือการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ การสร้าง “เส้นทางอาชีพ” อย่างชัดเจนเป็นหนึ่งใน วิธีสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงาน ที่ส่งผลดีในระยะยาว เพราะจะทำให้พนักงานมองเห็นอนาคตของตนเองในองค์กร
- สภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน – บรรยากาศที่เปิดกว้างให้แสดงความคิดเห็น ไม่มีกลั่นแกล้ง มีพื้นที่ปลอดภัย (Psychological Safety) ให้พูดคุยกันได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นพื้นฐานสำคัญของแรงจูงใจในองค์กร การออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสม มีพื้นที่พักผ่อน หรือแม้แต่มีดนตรีเบา ๆ ประกอบการทำงาน ก็ล้วนส่งผลต่ออารมณ์และแรงจูงใจของพนักงานได้เช่นกัน
- ความยืดหยุ่นในการทำงาน (Work-Life Balance) – องค์กรที่เข้าใจว่า “พนักงานก็มีชีวิต” จะสามารถออกแบบระบบงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ เช่น การอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน การลดชั่วโมงทำงานในบางช่วง หรือการให้หยุดพักระหว่างวันอย่างเหมาะสม ล้วนช่วยให้พนักงานรู้สึกถึงอิสระ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างน่าทึ่ง
- Incentive ที่เข้าใจคนจริง ๆ – แม้ Incentive จะมักถูกมองว่าเป็น “รางวัลเชิงตัวเงิน” แต่ในความเป็นจริง สามารถออกแบบให้หลากหลาย เช่น การให้บัตรกำนัลสำหรับครอบครัว การจัดทริปสัมมนาเชิงสร้างสรรค์ วันหยุดพิเศษที่มอบให้เมื่อโปรเจกต์สำเร็จ โดยสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Incentive เพิ่มเติมได้ที่ HR และผู้บริหารห้ามพลาด! ทำความรู้จักค่า Incentive คืออะไร
การสร้างสวัสดิการพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ก่อนคิดเรื่อง Incentive
ก่อนที่องค์กรจะมองไปถึง Incentive สิ่งสำคัญที่ควรทำคือ การย้อนกลับมามองว่า “สวัสดิการพื้นฐาน” ที่ให้กับพนักงานมีความครบถ้วนและเข้าถึงได้จริงหรือไม่ เพราะสวัสดิการพื้นฐานเป็นหนึ่งในปัจจัยในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน และยังเป็นสิ่งที่พนักงานคาดหวังเป็นลำดับต้น ๆ ในการเลือกทำงานกับองค์กร โดยองค์ประกอบของสวัสดิการพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญ คือ
- ประกันสังคมและประกันสุขภาพเพิ่มเติม – เพื่อให้พนักงานรู้สึกมั่นใจว่าองค์กรพร้อมดูแลในเวลาที่เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ควรมีการมอบสิทธิประกันสังคม รวมถึงประกันสุขภาพอื่น ๆ ในการดูแลพนักงานอย่างครบถ้วน เช่น บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ในการตรวจสุขภาพช่องปาก สำหรับพนักงานที่ไม่มีเวลาในการดูแลตนเอง รวมทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิประกันสังคมทำฟันได้แบบไม่ต้องสำรองจ่าย
- วันลาอย่างเหมาะสม – วันลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานบริษัท เนื่องจากเป็นวันที่ใช้ในการผ่อนคลายจากการทำงานหนักตลอดสัปดาห์ องค์กรจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งวันลาพักร้อน ลาป่วย ลากิจ หรือแม้แต่การให้วันลาเพิ่มตามอายุงานอย่างครบถ้วน เพื่อให้พนักงานมีเวลาในการพักผ่อนอย่างเต็มที่
- การสนับสนุนครอบครัว – สวัสดิการในการสนับสนุนไปจนถึงครอบครัวของพนักงาน เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้พนักงานรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่จากองค์กร เช่น สวัสดิการเลี้ยงบุตร ลาคลอด การอนุญาตให้ทำงานแบบยืดหยุ่นหลังคลอด เป็นต้น
- เงินออมเพื่ออนาคต เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ – ปัจจุบันสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น ยังไม่ได้มีในทุกองค์กรเหมือนกับสวัสดิการพื้นฐานอื่น ๆ การที่องค์กรเล็งเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการออมเงิน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวให้พนักงาน ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างความประทับใจ จนเป็นวิธีสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในการทำงาน ที่น่าสนใจอีกวิธีหนึ่ง
แนวทางการสร้างสวัสดิการให้แข็งแกร่ง อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้สวัสดิการในองค์กรมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ต่อผู้ที่ได้รับอย่างตรงจุด HR ควรมีการออกแบบสวัสดิการเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์ โดยมีแนวทางดังนี้
- ฟังเสียงพนักงานอย่างจริงจัง – การสำรวจความต้องการพนักงานอย่างสม่ำเสมอ องค์กรสามารถจัดเวิร์กชอป กล่องรับความคิดเห็น หรือแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อให้พนักงานได้สะท้อนสิ่งที่ต้องการจริง ๆ เช่น บางคนอาจอยากได้บริการด้านสุขภาพจิต บางคนอาจต้องการสวัสดิการเพื่อครอบครัว หรือพนักงานบางกลุ่มอาจเน้นเรื่องการเงิน
- ใช้เทรนด์ใหม่ ๆ เป็นแนวทาง – เทรนด์ด้าน HR ทั่วโลกสามารถนำมาปรับใช้ได้
- สวัสดิการสุขภาพจิต (Mental Health Day, Counseling)
- การทำงานแบบ Hybrid หรือ Remote Working
- การสนับสนุนความหลากหลายและการไม่เลือกปฏิบัติ
- Wellness Program เช่น กิจกรรมโยคะ อาหารสุขภาพในสำนักงาน
- มีระบบติดตามและประเมินผล – ระบบสวัสดิการที่ดีต้องมีการประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ผลตอบรับ และพร้อมปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่นตามบริบทขององค์กรและพนักงานที่เปลี่ยนไป
บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental
หนึ่งในสวัสดิการด้านสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่องค์กรยุคใหม่ คือ บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่ง AT U Dental ได้ออกแบบขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งฝ่าย HR และพนักงาน ด้วยจุดเด่นที่ตอบโจทย์ชีวิตของเหล่าพนักงานที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก โดยข้อดีของบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ได้แก่
- เข้าถึงง่าย ไม่ต้องเดินทาง ทีมทันตกรรมสามารถเข้าไปให้บริการถึงภายในองค์กร เช่น โรงงาน สำนักงาน หรืออาคารพาณิชย์ ลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาเดินทางของพนักงาน
- เครื่องมือครบครันในรถ – ภายในรถทันตกรรมมีอุปกรณ์ทันตกรรมที่จำเป็นอย่างครบถ้วน สามารถให้บริการทางทันตกรรมได้ตั้งแต่การตรวจช่องปาก การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เป็นต้น
- บริการได้หลายรูปแบบในที่เดียว – ตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินปูน ถอนฟัน อีกทั้งยังมีบริการในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
- ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร – การจัดให้มีบริการด้านทันตกรรมภายในสถานที่ทำงาน ถือเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความใส่ใจในพนักงาน ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจในองค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม
สรุป
การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าในยุคปัจจุบัน การดูแลพนักงานอย่างแท้จริงไม่ได้จำกัดแค่เรื่องการเพิ่มเงินเดือนหรือให้โบนัสเท่านั้น แต่ต้องมองให้กว้างมากขึ้น ทั้งการออกแบบสวัสดิการพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี รวมถึงการพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่ดีจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่าของตนเองในองค์กร องค์กรจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งสวัสดิการพื้นฐานอย่าง วันหยุด ประกันสังคม ประกันสุขภาพ Incentive และบริการเสริมอื่น ๆ เช่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ รวมไปถึงการรับฟังความเห็นของพนักงานอย่างเปิดกว้าง เพื่อส่งมอบสวัสดิการที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
สำหรับองค์กรที่สนใจบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จาก AT U Dental สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการได้แล้ววันนี้ พวกเราพร้อมให้บริการทางทันตกรรมอย่างครบครัน และสะดวกสบาย