เตรียมก่อนใคร! สวัสดิการพนักงานยอดฮิต ที่ควรมีในปี 2025

4 สวัสดิการพนักงานใหม่ๆยอดฮิต! ที่ควรมีในปี 2025

สิทธิสวัสดิการบริษัทคืออะไร ทำไมบริษัทควรให้สวัสดิการแก่พนักงาน

สำหรับชีวิตการทำงาน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุก ๆ อาชีพต่างก็ทำงาน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนกลับคืนมา โดยผลตอบแทนอาจอยู่ในรูปแบบของประสบการณ์ ความรู้ คอนเนคชั่น โบนัส และเงินเดือน นอกจากนี้ยังรวมถึงสิทธิสวัสดิการบริษัท ที่แต่ละบริษัทมีการพิจารณามอบให้แก่พนักงาน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เกิดเป้าหมายการทำงานใหม่ ๆ มากขึ้น โดยสิทธิสวัสดิการบริษัทมีหลากหลายรูปแบบ เช่น สิทธิสวัสดิการบริษัทที่มอบให้พนักงานทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข และสิทธิสวัสดิการบริษัทที่ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ เป็นต้น

สิทธิสวัสดิการบริษัทขั้นพื้นฐานทั่วไป ที่มีการมอบให้พนักงาน

สำหรับสิทธิสวัสดิการบริษัทในปัจจุบัน แน่นอนว่ามีความหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละที่ ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและความเหมาะสมของรูปแบบการทำงาน ซึ่งวันนี้จะยกตัวอย่างสิทธิสวัสดิการบริษัทที่ได้รับความนิยม และมีการมอบให้พนักงานกันอย่างแพร่หลายในหลาย ๆ บริษัท ดังนี้

  1. การปรับอัตราเงินเดือนประจำปีและโบนัส

สำหรับการทำงาน พนักงานส่วนใหญ่ตั้งใจทำงานให้ผลงานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด การที่บริษัทได้กำหนดเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการให้แต่ละทีม พร้อมระบุว่าการปรับขึ้นเงินเดือนหรือโบนัส จะเป็นไปตามผลประกอบการและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ก็สามารถสร้างแรงจูงใจ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากแข่งขันและท้าทายความสามารถของพนักงานได้มากยิ่งขึ้น

  1. วันหยุด และวันลาตามกฎหมาย

วันลา หรือวันหยุด ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการพนักงานขั้นพื้นฐานที่ทุกบริษัทควรมี โดยเบื้องต้นพนักงานต้องได้รับวันหยุดตามปฏิทิน, วันลาพักร้อนอย่างน้อย 6 วันต่อปี, วันลาป่วยไม่เกิน 30 วันต่อปีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ซึ่งบริษัทสามารถเพิ่มวันหยุดเพื่อเป็นสวัสดิการพิเศษให้พนักงานได้ตามความเหมาะสม เช่น วันลาหยุดในเดือนเกิด วันลาคลอด วันลาบวช และวันลาอื่น ๆ ตามสมควร

  1. สิทธิสวัสดิการบริษัทประกันสังคม

ประกันสังคม คือ ระบบประกันสังคมสำหรับผู้มีรายได้ เป็นการจ่ายเงินสมทบของทั้งตัวผู้ประกันตนเอง ร่วมกับนายจ้าง ซึ่งประกันสังคมมีความครอบคลุมทั้งในด้านคุณภาพชีวิต และสิทธิสวัสดิการพนักงานด้านการรักษาพยาบาล โดยประโยชน์สำหรับผู้ประกันตน ได้แก่

  • กรณีเจ็บป่วย – รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ค่ารักษาพยาบาล และการเดินทาง
  • กรณีทุพพลภาพ – รับเงินชดเชยอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยใน 6 เดือนสุดท้าย สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน
  • กรณีเสียชีวิต – ทายาทของผู้ประกันตน จะได้รับเงินชดเชยอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้างเฉลี่ย 6 เดือนสุดท้าย สูงสุดไม่เกิน 350,000 บาท
  • กรณีคลอดบุตร – รับเงินทดแทนการขาดรายได้ และเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 1,500 บาท เป็นเวลา 1 ปี
  • กรณีว่างงาน – รับเงินทดแทนการขาดรายได้ อัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย 6 เดือนสุดท้าย สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อเดือน
  • กรณีชราภาพ – ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ในอัตราร้อยละ 20 ของเงินสมทบที่จ่ายเข้ากองทุน
  1. สิทธิสวัสดิการด้านทันตกรรม

ปัจจุบันปัญหาสุขภาพฟัน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีโอกาสส่งผลกระทบต่อการทำงาน เช่น พนักงานขาย พนักงานที่ต้องมีการบริการ และนำเสนองาน มักประสบปัญหาในเรื่องของความไม่มั่นใจในการพูดคุย  โดยสาเหตุของปัญหาเหล่านี้ เกิดจากการละเลยการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตรวจฟัน และค่ารักษาทางทันตกรรม การที่ประกันสังคม มีสิทธิสวัสดิการพนักงานด้านการรักษาพยาบาล เป็นจำนวนเงิน 900 บาท สำหรับการทำทันตกรรม ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรมแก่พนักงาน สำหรับรายการทันตกรรมที่สามารถเบิกประกันสังคมได้ มีดังนี้

  • การขูดหินปูน – ขูดหินปูนและคราบพลัค ที่เกาะบริเวณซอกฟันและเหงือก
  • การอุดฟัน – กรณีฟันผุ หรือฟันที่ความเสียหาย
  • การถอนฟัน – กรณีฟันผุรุนแรง ฟันแตก ฟันหัก 
  • การผ่าฟันคุด – ผ่าตัดหรือถอนฟันคุด ในกรณีที่ฟันคุดส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก

สิทธิสวัสดิการใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และมีส่วนช่วยในการเพิ่มแรงจูงใจให้แก่พนักงาน

จากหัวข้อสิทธิสวัสดิการบริษัทขั้นพื้นฐานทั่วไปด้านบน เชื่อว่าหลายท่านน่าจะรู้จักและได้รับสวัสดิการเหล่านั้นจากบริษัทที่ได้ทำงานอยู่ แต่นอกจากสิทธิสวัสดิการที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น ปัจจุบันหลายบริษัทได้มีการมอบสวัสดิการอื่น ๆ ที่มีความน่าสนใจ มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน และมีส่วนในการดึงดูดให้พนักงานสนใจร่วมงานกับบริษัทมากขึ้น โดยสิทธิสวัสดิการบริษัทใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและกำลังมาแรง มีดังนี้

  1. สวัสดิการ Work From Anywhere (WFA)

สวัสดิการนี้เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ต้องมีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน ส่งผลให้หลายบริษัทออกนโยบาย Work From Home ให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการปรับมาเป็น Work From Anywhere ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เช่น บ้าน ร้านกาแฟ สวนสาธารณะ เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานและลดระยะเวลาการเดินทาง เพื่อเอาเวลามาทุ่มเทกับการทำงานและพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่

  1. สวัสดิการเงินสนับสนุนในการพัฒนาตนเอง

สวัสดิการบริษัทประเภทนี้ คือ การมีงบสนับสนุนสำหรับพนักงานที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเองในด้านต่าง ๆ เช่น การซื้อคอร์สเรียนเพิ่มเติม การเวิร์กชอปเพื่อพัฒนาตนเอง โดยพนักงานสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้กับทางบริษัท ได้ตามจำนวนเงินที่มีการกำหนดเอาไว้สำหรับสวัสดิการบริษัท

  1. สวัสดิการประกันสุขภาพแบบกลุ่ม

สิทธิสวัสดิการพนักงานด้านการรักษาพยาบาลอย่างประกันสุขภาพแบบกลุ่ม เป็นประกันสุขภาพที่มีการคุ้มครองมากกว่าประกันสังคม หลายบริษัทจึงมีนโยบายในการมอบสิทธิสวัสดิการประกันสุขภาพแบบกลุ่มแทนประกันสังคม ถือเป็นสวัสดิการบริษัทที่มอบสิทธิประโยชน์ดี ๆ ทางด้านร่างกายให้แก่พนักงาน โดยประกันสุขภาพแบบกลุ่ม มีความครอบคลุมการรักษาทั้งแบบ ผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD), บริการทางทันตกรรม, เข้าถึงการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องมีการสำรองจ่าย และช่วยลดความกังวลของพนักงาน ในส่วนของชีวิตความเป็นอยู่ ส่งผลให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. สวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่

โดยปกติแล้วประกันสังคม มักจะมีสิทธิสวัสดิการพนักงานด้านการรักษาพยาบาลอย่าง สวัสดิการทำฟัน ซึ่งพนักงานต้องมีการเดินทางไปตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง ตามคลินิกหรือสถานพยาบาลที่สามารถเบิกค่าทำฟันประกันสังคมได้ และเพื่อเป็นการประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง และไม่กระทบกับเวลาทำงาน AT U Dental จึงมีบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถเข้าไปให้บริการทำฟันแก่พนักงานได้ถึงหน้าบริษัทโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง พร้อมด้วยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ครบครัน สามารถเบิกค่าทำฟันประกันสังคมได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งข้อดีของการมีสวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ให้แก่พนักงาน มีดังนี้

  • พนักงานสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายมากขึ้น

รถทันตกรรมเคลื่อนที่สามารถเข้าไปให้บริการได้ถึงหน้าบริษัทและชุมชน ช่วยลดปัญหาในการเดินทาง เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงบริการทำทางทันตกรรม ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

  • ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

พนักงานบริษัทหลายท่านมักมองข้ามการตรวจสุขภาพฟัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการเดินทางและเสียเวลาในการเดินทาง การที่มีสวัสดิการบริษัทอย่างรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ถือเป็นการช่วยสนับสนุนให้พนักงานได้เข้าถึงสิทธิการทำฟันที่ควรได้รับ

  • ทันตกรรมเชิงป้องกัน

การเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ช่วยตรวจเช็กและรักษาปัญหาสุขภาพฟันได้อย่างทันท่วงที ถือเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่ร้ายแรงในอนาคตได้ 

  • รถทันตกรรมเคลื่อนที่เชื่อถือได้

ข่าวเกี่ยวกับคลินิกทันตกรรมเถื่อนหรือทันตแพทย์เถื่อนสามารถพบเจอได้บ่อยครั้ง แต่การใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ AT U Dental สามารถมั่นใจได้ว่าทันตแพทย์ของเรามีใบประกอบวิชาชีพ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้บริการแก่พนักงานทุกคนภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยอย่างแน่นอน

การเลือกใช้สวัสดิการทำฟันกับ AT U Dental

สิทธิสวัสดิการบริษัทถือเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ช่วยเพิ่มแรงผลักดันในการทำงานให้แก่พนักงาน การที่บริษัทมีการมอบสิทธิสวัสดิการที่คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ และการพัฒนาทักษะความสามารถของพนักงาน จะช่วยลดปัญหาความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้ สำหรับสิทธิสวัสดิการประกันสังคม ที่มีสิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการพนักงานด้านการรักษาพยาบาล รวมถึงสวัสดิการทำฟัน ที่มีวงเงินในการเบิกค่ารักษาจำนวน 900 บาทต่อปี ถือเป็นสิทธิสวัสดิการที่มีส่วนช่วยในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ให้พนักงานสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพได้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานที่ต้องการใช้สิทธิประกันสังคมทำฟันในการตรวจฟัน ทางบริษัทสามารถติดต่อ AT U Dental เพื่อใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เราพร้อมให้บริการทุกท่านถึงหน้าบริษัท ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้เต็มจำนวน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย