บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด มุ่งเน้นการให้บริการด้านทันตกรรมแบบครบวงจร ผ่านคลินิกทันตกรรมและรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้สะดวกและเท่าเทียม เราไม่ได้ให้บริการเพียงเพื่อรักษาโรคในช่องปาก แต่เราสร้างรอยยิ้มที่แข็งแรงและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ทุกการดูแลจากเราคือการส่งต่อพลังแห่ง
“ความมั่นใจที่ไร้ขีดจำกัด” (The Endless Confident)

สวัสดิการสุขภาพ ฟันสวยถึงที่ทำงาน! แอท ยู เดนทัล จับมือ โฮมโปร จัดโครงการ “Homepro Happy Dental X AT U” ดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานทั่วประเทศ

บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด (AT U DENTAL) ผู้นำด้านการให้บริการรถ ทันตกรรมเคลื่อนที่ชื่อดังของประเทศไทย นำโดย นายธัชวีร์ สุวรรณปัญญา กรรมการผู้จัดการ ร่วมกับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (โฮมโปร) โดย นายชานันท์ วัฒนสุนทร ผู้จัดการทั่วไป-สายทรัพยากรบุคคล ดูแลสุขภาพช่องปากของพนักงานโฮมโปร พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก่อนมีแผนขยายไปทั่วประเทศไทย ภายใต้โครงการ “Homepro Happy Dental X AT U” ด้วยการนำรถบริการ ทันตกรรมเคลื่อนที่ไปจอดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบถึงหน้าสำนักงาน ในคอนเซ็ปท์ “ฟันสวยถึงที่ทำงาน…เป็นไปได้!” สอดคล้องกับแนวคิดของ แอท ยู เดนทัล ที่ต้องการส่งเสริมสวัสดิการที่ดีของบริษัท พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการด้านทันตกรรมอย่างตรงจุด ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น นายธัชวีร์ สุวรรณปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด กล่าวว่า “แอท ยู เดนทัล มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพช่องปากของทุกคนให้แข็งแรงและยิ้มได้อย่างมีความสุขในทุกวันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในองค์กร สถาบัน ตลอดจนบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศไทย ที่ต้องการเสริมสร้างแนวทางการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับพนักงานอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน ซึ่งสามารถไปให้บริการถึงหน้าบริษัทของคุณโดยตรงแบบไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกและลดความยุ่งยากในการเข้ารับบริการ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงบริการทางทันตกรรมได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งเราหวังว่าเมื่อพนักงานทุกคนมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นทั้งยังช่วยเพิ่มการดูแลสุขภาพของพนักงานด้วยสวัสดิการที่ครอบคลุมความต้องการของพนักงาน พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร รวมถึงสร้างทัศนคติที่ดีของพนักงานต่อบริษัทได้อีกทางหนึ่ง” ด้าน นายชานันท์ วัฒนสุนทร ผู้จัดการทั่วไป-สายทรัพยากรบุคคล บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (โฮมโปร) เปิดเผยว่า “ทาง โฮมโปร นั้นใส่ใจเรื่องของสุขภาพของพนักงานมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้แก่พนักงานเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง หรือการป้องกันโรคร้ายต่างๆ แต่หลายคนอาจจะลืมเรื่องใกล้ตัวอย่าง ช่องปาก เราทราบดีว่าพนักงานทุกคนมีสิทธิประกันสังคมในการดูแลช่องปาก แต่จะมีสักกี่คนที่ไปใช้บริการ อาจจะติดเรื่องของเวลา ไม่สะดวกเดินทาง กระทั่งได้เห็นว่ามีบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ และเราอยากจะให้พนักงานของเราได้ใช้เวลาว่าง เพื่อที่จะดูแลสุขภาพช่องปาก จึงเกิดโครงการนี้ขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่พนักงาน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น” สำหรับแอท ยู เดนทัล เปิดให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ รองรับการให้บริการได้สูงสุดถึง 400 คนต่อวัน ให้คำปรึกษาและดูแลโดยทีมทันตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมชั้นนำของประเทศไทย รวมถึงมีเครือข่ายคลินิกพันธมิตรกว่า 21 สาขาทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบสมุดสุขภาพฟัน (Dental Passport) ให้แก่ลูกค้าได้ทันทีหลังทำหัตถการเสร็จสิ้น ผู้สนใจสามารถติดต่อ แอท ยู เดนทัล เพื่อรับบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.atudental.co.th หรือFacebook: รถทันตกรรมเคลื่อนที่ บริษัท แอท ยู เดนทัล หรือLine: @atudental หรือโทร. 02 096 4435, 098 848 8899
โพสต์เมื่อ 4 กันยายน 2568

การเดินทางสู่การดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานที่เหนือกว่า: บทพิสูจน์ความสำเร็จของ AT U DENTAL BUS ณ โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง

ในภูมิทัศน์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การลงทุนในสวัสดิการพนักงานได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงค่าใช้จ่าย ไปสู่การเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูงและพนักงานต้องทุ่มเทกับการทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ การสร้างสวัสดิการที่เข้าถึงได้ง่ายและตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเรื่องราวความสำเร็จของการร่วมมือระหว่าง โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง กับ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ AT U DENTAL BUS ถือเป็นต้นแบบที่น่าสนใจในการพลิกโฉมสวัสดิการสุขภาพช่องปากให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568 AT U DENTAL BUS ได้กลับมาให้บริการอีกครั้ง ณ โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การให้บริการซ้ำ แต่เป็นการกลับมาตามเสียงเรียกร้องและความสำเร็จจากครั้งแรกที่สร้างความประทับใจให้กับทั้งฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและพนักงานผู้รับบริการเป็นอย่างมาก การกลับมาครั้งที่สองนี้ได้ตอกย้ำถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าของบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างของสวัสดิการสุขภาพที่พนักงานส่วนใหญ่มักละเลย ทำไมโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง จึงเลือก AT U DENTAL เป็นครั้งที่ 2? เสียงจากฝ่าย HR ที่ยืนยันความพึงพอใจเหนือความคาดหมาย จากคำบอกเล่าของตัวแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคลของโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง ความประทับใจเริ่มต้นตั้งแต่การให้บริการครั้งแรก “เราประทับใจมากๆ ตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ” ตัวแทน HR กล่าวย้ำ “เป็นบริการที่สะดวกสบาย เข้าถึงง่ายเพราะมาถึงที่ทำงานจริงๆ พนักงานทุกคนที่ใช้บริการจากครั้งที่แล้วต่างให้เสียงเดียวกันว่า ‘ดีมากๆ’ ไม่ต้องเสียเวลาไปหาคุณหมอถึงคลินิก ซึ่งนอกจากจะลดเวลาเดินทางแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายไปอีก และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกลด้วย” มุมมองนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการพื้นฐานของพนักงานในปัจจุบัน พนักงานจำนวนมากที่ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ มีวันหยุดเพียง 1 วัน ซึ่งมักถูกใช้ไปกับการพักผ่อนหรือจัดการธุระส่วนตัว ทำให้การจัดสรรเวลาเพื่อไปพบทันตแพทย์กลายเป็นเรื่องยากและมักถูกเลื่อนออกไป สวัสดิการรถทันตกรรมเคลื่อนที่จึงเข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ด้วยการนำบริการที่จำเป็นมาถึงหน้าประตูบ้าน (ที่ทำงาน) ของพนักงาน ทำให้พวกเขาเข้าถึงสิทธิ์ประกันสังคม 900 บาทได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งเป็นการลดภาระทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ความต้องการที่ชัดเจน: ครั้งที่ 3 จะต้องมาในเร็ววัน และการขยายผลสู่สาขาอื่น เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการให้บริการครั้งที่ 3 คำตอบจากฝ่าย HR นั้นชัดเจนและหนักแน่น “แน่นอนค่ะ และคิดว่าครั้งที่ 3 จะต้องมีขึ้นในเร็วๆ นี้แน่ๆ” นี่ไม่ใช่เพียงแค่ความคาดหวัง แต่เป็นการยืนยันถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของโครงการ ที่สำคัญคือ ฝ่าย HR ยังมีความปรารถนาที่จะขยายผลประโยชน์นี้ไปยังพนักงานในสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ “อยากให้สาขาอื่นมีเช่นกัน” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของโรบินสันไลฟ์สไตล์ในการสร้างมาตรฐานสวัสดิการที่เป็นธรรมและครอบคลุมสำหรับพนักงานทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะปฏิบัติงานอยู่ที่ใดก็ตาม การตัดสินใจของฝ่ายบริหารในการมอบสวัสดิการลักษณะนี้ให้กับพนักงานเกิดจากความตระหนักถึงปัญหาที่ว่า “เป็นสวัสดิการที่พนักงานเข้าไม่ถึง หรือเข้าถึงน้อยมาก โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นสิ่งที่ทุกคนละเลยในการดูแลตนเอง เพราะไม่ค่อยมีเวลา” ตัวแทน HR อธิบายเพิ่มเติม “พนักงานส่วนใหญ่ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หยุด 1 วันก็เป็นวันพักผ่อน จึงไม่มีเวลาไปทำในส่วนนี้เองเลย ทางองค์กรจึงอยากให้พนักงานใส่ใจกับสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสุขภาพที่ทุกคนมองข้าม” นี่คือการลงทุนในสุขภาพพื้นฐานของพนักงาน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในด้านสุขภาพที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น และความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างพนักงานกับองค์กร เสียงสะท้อนจากใจพนักงาน: สวัสดิการที่ “เข้าใจ” และ “สร้างแรงบันดาลใจ” ความสำเร็จของโครงการนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้หากขาดเสียงตอบรับจากผู้รับบริการโดยตรง และเสียงจากพนักงานของโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง ก็สะท้อนความประทับใจได้อย่างชัดเจน พนักงานผู้เข้ารับบริการท่านหนึ่งกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณว่า “เป็นบริการที่ดีมากๆ ที่องค์กรมอบให้ค่ะ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วพนักงานทำงานก็ 6 วันต่อสัปดาห์ วันหยุดก็อยากจะพักผ่อน หรือมีธุระอื่นๆ อีก จึงไม่มีเวลาเดินทางไปเอง แต่นี่องค์กรมอบทั้งเวลา สวัสดิการ และสุขภาพช่องปากที่ดี ให้กับพนักงาน เราเลยรักองค์กรที่เข้าใจเรามากๆ และมีแรงมาทำงานต่อ” คำพูดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าสวัสดิการที่ตอบโจทย์และเข้าใจชีวิตของพนักงานนั้นทรงพลังเพียงใด ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นการได้รับ “เวลา” และ “ความใส่ใจ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ในยุคปัจจุบัน เมื่อสอบถามถึงประสบการณ์กับทันตแพทย์ พนักงานต่างชื่นชมในคุณภาพและมาตรฐานของทีมแพทย์ที่มาให้บริการ “คุณหมอใจดี มือเบา และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ” คำชื่นชมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของทีมทันตแพทย์ AT U DENTAL ที่ไม่ได้เพียงแค่รักษา แต่ยังให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน และเมื่อถึงคำถามที่ว่า “หากมีครั้งที่ 3 จะมาใช้บริการอีกหรือไม่” คำตอบที่ได้คือ “มาแน่นอนค่ะ สามารถตอบได้เลยแบบไม่ลังเล” นี่คือการยืนยันถึงความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านความพึงพอใจของพนักงาน และประสิทธิภาพของรูปแบบการให้บริการที่ AT U DENTAL BUS มอบให้ AT U DENTAL BUS: นวัตกรรมที่เปลี่ยนเกมสวัสดิการสุขภาพ ความสำเร็จ ณ โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากแนวคิดและมาตรฐานการให้บริการของ AT U DENTAL
โพสต์เมื่อ 2 กันยายน 2568

ก้าวสำคัญ: โฮมโปร จับมือ AT U DENTAL ดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานทั่วประเทศ

[กรุงเทพมหานคร, 28 สิงหาคม 2568] – ในวันนี้วงการธุรกิจได้ประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นขององค์กรชั้นนำในการดูแลบุคลากรอย่างแท้จริง เมื่อ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (โฮมโปร) ได้จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด (AT U DENTAL) ผู้นำด้านการให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เปิดตัวโครงการยิ่งใหญ่ “Homepro Happy Dental X AT U” เพื่อนำบริการทันตกรรมครบวงจรไปดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานโฮมโปรทั่วประเทศ ประเดิมการให้บริการ ณ สำนักงานใหญ่โฮมโปรเป็นแห่งแรก พิธีเปิดโครงการจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 09.00-10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่โฮมโปร โดยได้รับเกียรติจาก นายชานันท์ วัฒนสุนทร ผู้จัดการทั่วไป-สายทรัพยากรบุคคล บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด และ นายธัชวีร์ สุวรรณปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด ร่วมกันเป็นประธานในพิธี ท่ามกลางสื่อมวลชนชั้นนำที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ Sawaddeemuangthai, FullMaxs, StockMaster, EconomicNews, Business Line&Life Channel และ Kaosod จุดเปลี่ยนสำคัญของสวัสดิการพนักงาน: จากภาระสู่ความสุข โครงการ “Homepro Happy Dental X AT U” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการนิยามสวัสดิการพนักงานยุคใหม่ เพราะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การให้สิทธิประโยชน์ แต่เป็นการอำนวยความสะดวกอย่างแท้จริง โดยการนำคลินิกทันตกรรมครบวงจรมาจอดให้บริการถึงที่ทำงาน ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ลดปัญหาที่ต้องเผชิญในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิประกันสังคมที่ยุ่งยาก หรือการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปคลินิก โฮมโปร: หัวใจของการดูแลบุคลากร สู่สวัสดิการยุคใหม่ นายชานันท์ วัฒนสุนทร จากโฮมโปร ได้เผยถึงที่มาของโครงการนี้ว่า “โฮมโปรให้ความสำคัญกับพนักงานในฐานะหัวใจสำคัญขององค์กร เราเชื่อว่าถ้าพนักงานมีสุขภาพที่ดี ก็จะส่งผลโดยตรงต่อการทำงานและคุณภาพชีวิต โครงการรถทำฟันเคลื่อนที่จึงถูกริเริ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก ลดภาระการเดินทาง และทำให้พนักงานเข้าถึงบริการทันตกรรมได้ง่ายขึ้นในที่ทำงาน” นอกจากนี้ การให้บริการยังช่วยเพิ่มการใช้สิทธิประกันสังคม 900 บาทที่พนักงานมีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัว และลดความกังวลเรื่องค่ารักษาที่อาจบานปลาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้หลายคนละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก ในมุมมองขององค์กร นายชานันท์กล่าวเสริมว่า “ในมุมของพนักงาน ประโยชน์ที่ได้รับคือการเข้าถึงบริการทันตกรรมที่ครบถ้วน โดยใช้สิทธิประกันสังคม 900 บาทได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา ส่วนในมุมขององค์กร การดูแลสุขภาพพนักงานอย่างรอบด้านจะช่วยสร้างความผูกพัน ลดอัตราการลาออก และทำให้โฮมโปรเป็นองค์กรที่พนักงานภาคภูมิใจและอยากทำงานด้วยในระยะยาว” AT U DENTAL: พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ สู่มาตรฐานการบริการระดับประเทศ นายธัชวีร์ สุวรรณปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอท ยู เดนทัล จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า “แอท ยู เดนทัล มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพช่องปากของทุกคนให้แข็งแรงและยิ้มได้อย่างมีความสุขในทุกวันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในองค์กร สถาบัน ตลอดจนบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศไทย ที่ต้องการเสริมสร้างแนวทางการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับพนักงานอย่างจริงจัง” พร้อมกล่าวเน้นย้ำถึงจุดแข็งของ AT U DENTAL BUS ว่า “เราเปิดให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน ซึ่งสามารถไปให้บริการถึงหน้าบริษัทของคุณโดยตรงแบบไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกและลดความยุ่งยากในการเข้ารับบริการ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงบริการทางทันตกรรมได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งเราหวังว่าเมื่อพนักงานทุกคนมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มการดูแลสุขภาพของพนักงานด้วยสวัสดิการที่ครอบคลุมความต้องการของพนักงาน พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร รวมถึงสร้างทัศนคติที่ดีของพนักงานต่อบริษัทได้อีกทางหนึ่ง” รถทันตกรรมเคลื่อนที่ของ แอท ยู เดนทัล รองรับการให้บริการได้สูงสุดถึง 400 คนต่อวัน ให้คำปรึกษาและดูแลโดยทีมทันตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมชั้นนำของประเทศไทย และมีเครือข่ายคลินิกพันธมิตรกว่า 21 สาขาทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบสมุดสุขภาพฟัน (Dental Passport) ให้แก่ลูกค้าได้ทันทีหลังทำหัตถการเสร็จสิ้น อนาคตของสวัสดิการพนักงาน: ขยายผลสู่ทั่วประเทศ เมื่อถูกถามถึงแผนการขยายบริการ นายชานันท์ วัฒนสุนทร จากโฮมโปร ได้ให้วิสัยทัศน์ว่า “โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากผลตอบรับเป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจ โฮมโปรมีแผนที่จะขยายการให้บริการครอบคลุมสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้พนักงานทุกพื้นที่ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และในอนาคตอาจต่อยอดร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพอื่น ๆ เพื่อสร้างสวัสดิการที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโฮมโปรในการสร้างสรรค์สวัสดิการที่ดีที่สุดเพื่อพนักงานอย่างแท้จริง ผู้สนใจสามารถติดต่อ แอท ยู เดนทัล เพื่อรับบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.atudental.co.th หรือ Facebook: รถทันตกรรมเคลื่อนที่ บริษัท แอท ยู เดนทัล
โพสต์เมื่อ 29 สิงหาคม 2568

มาตรฐานการให้บริการและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ AT U DENTAL BUS

ในโลกธุรกิจที่ความคล่องตัวและประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของการทำงาน AT U DENTAL ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์องค์กรและพนักงาน ด้วยบริการ AT U DENTAL BUS หรือรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ซึ่งไม่ใช่แค่การนำคลินิกมาไว้บนรถ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ให้เทียบเท่ากับคลินิกชั้นนำ มาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยระดับคลินิก เราให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย โดย AT U DENTAL BUS ได้รับการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) และได้รับ การตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการให้บริการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์และความปลอดภัยระดับสูงสุด นอกจากนี้ วัสดุและเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาได้รับการดูแลและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการติดเชื้อข้ามคน และรับประกันว่าผู้ใช้บริการจะได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยอย่างแท้จริง คุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ AT U DENTAL BUS AT U DENTAL BUS ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด จึงมีคุณสมบัติที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ดังนี้: การสร้าง AT U DENTAL BUS คือการนำนวัตกรรมมาผสานกับการให้บริการด้วยหัวใจ เพื่อให้สวัสดิการทำฟันที่เข้าถึงยาก กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายสำหรับองค์กรและพนักงานทุกคน
โพสต์เมื่อ 29 สิงหาคม 2568

AT U DENTAL ร่วมงานมหกรรมอาชีวศึกษา ตอกย้ำบทบาทผู้นำในการสร้างบุคลากรคุณภาพสู่สายงานผู้ช่วยทันตกรรม

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ได้มีการจัดงาน “มหกรรมรวมพลังภาคีเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา” ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้สถานศึกษาและสถานประกอบการได้ร่วมกันลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเพื่อยกระดับการจัดการศึกษาอาชีวะให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานได้อย่างแท้จริง ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร AT U DENTAL โดยคุณธัชวีร์ สุวรรณปัญญา CEO และ ทพญ. นัททิกา วรรณศรีจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทันตกรรม ได้เข้าร่วมงานในฐานะตัวแทนสถานประกอบการที่ได้รับเกียรติเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ AT U DENTAL ในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตให้กับนักเรียนอาชีวศึกษา การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่พิธีการ แต่ยังเป็นโอกาสที่ AT U DENTAL ได้จัดตั้งบูธประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนที่สนใจในสายอาชีพผู้ช่วยทันตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ AT U DENTAL ได้ให้การต้อนรับนักเรียนจากวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จำนวน 2 คน เข้าฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยทันตกรรม ซึ่งถือเป็นนักเรียนรุ่นแรกที่เข้าร่วมโครงการกับเรา การฝึกงานภาคปฏิบัติถือเป็นหัวใจสำคัญของการเตรียมความพร้อมสู่สายอาชีพ การที่นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริงในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงกับคลินิกที่มีคุณภาพมาตรฐาน ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะด้านการจัดเตรียมอุปกรณ์, การช่วยทันตแพทย์ในการทำหัตถการ, รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ บทบาทของ AT U DENTAL ในฐานะสถานประกอบการที่เปิดรับนักศึกษาอาชีวะเข้าฝึกงานสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ไม่เพียงแต่เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการทันตกรรมที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้บริการ แต่ยังเชื่อมั่นว่าการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถและมีทัศนคติที่ถูกต้อง คือรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับวงการทันตกรรมของไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต การเข้าร่วมงานในครั้งนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันว่า AT U DENTAL ไม่ได้เป็นเพียงแค่คลินิกทำฟัน แต่เราคือองค์กรที่พร้อมเป็นผู้นำในการสนับสนุนและร่วมพัฒนาการศึกษาอาชีวะ เพื่อเตรียมกำลังคนให้พร้อมสำหรับสายอาชีพผู้ช่วยทันตกรรมที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแท้จริง อ้างอิง : https://www.facebook.com/share/p/173t23edzp/ เพจ : วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี
โพสต์เมื่อ 28 สิงหาคม 2568

สิทธิทำฟันประกันสังคม: ทางเลือกใหม่สำหรับองค์กร ด้วยบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ถึงที่ทำงาน

ในยุคที่ตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมอบสวัสดิการที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องของการดึงดูดบุคลากร แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วยสิทธิทำฟันประกันสังคมถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่รัฐจัดสรรให้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับพบว่าพนักงานหลายคนเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่ และบทความนี้จะพาองค์กรไปสำรวจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และมีโซลูชันใดที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ อุปสรรคที่ทำให้พนักงานไม่ใช้สิทธิทำฟันประกันสังคม ปัญหาหลักที่ทำให้สวัสดิการนี้ถูกมองข้ามมักเกิดจากความไม่สะดวกและข้อจำกัดต่างๆ: ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้พนักงานละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก ทำให้ปัญหาสุขภาพเล็กๆ เช่น ฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ลุกลามจนกลายเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กรในระยะยาว AT U DENTAL BUS: คลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนอุปสรรคเป็นโอกาส แนวคิดของ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ (Mobile Dental Unit) คือการนำบริการทันตกรรมครบวงจรไปให้บริการถึงที่ทำงานของพนักงาน ทำให้สวัสดิการทำฟันประกันสังคมเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น AT U DENTAL BUS เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่คือคลินิกทันตกรรมบนล้อที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยมีการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบถ้วนเทียบเท่าคลินิกทั่วไป ทำให้การให้บริการมีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ การให้บริการโดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคลินิกในเครือของเรา ซึ่งมีประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับผู้ประกันตนมาอย่างยาวนาน ประกอบกับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้พนักงานมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด การที่ทันตแพทย์และอุปกรณ์ที่ทันสมัยเดินทางไปหาพนักงานโดยตรง จะช่วยลดอุปสรรคสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการส่งเสริมสวัสดิการทันตกรรมถึงที่ การส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิ์ทำฟันประกันสังคมด้วยแนวทางใหม่นี้ไม่ได้เป็นแค่การอำนวยความสะดวก แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับองค์กร: การนำบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ที่ได้มาตรฐานมาให้บริการถึงที่ทำงาน จึงเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนสิทธิประกันสังคมให้กลายเป็นสวัสดิการที่เหนือกว่าและเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างความผูกพันและเพิ่มความสุขในการทำงานให้กับพนักงานทุกคนในองค์กรของคุณ สนใจบริการ AT U DENTAL BUS? ติดต่อเราเพื่อปรึกษาและวางแผนการให้บริการสำหรับองค์กรของคุณได้เลย หมายเลขโทรศัพท์: 02-096-4435 LINE OA: @atudental
โพสต์เมื่อ 27 สิงหาคม 2568

ใช้สิทธิประกันสังคมทำฟัน 900 บาทอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด? “ผู้ประกันตนมีสิทธิทำฟันอะไรบ้าง? บทความนี้สรุปทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับสิทธิทำฟัน 900 บาท/ปีของประกันสังคมที่ AT U DENTAL CLINIC ตั้งแต่การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ไปจนถึงการเบิกค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด เพื่อให้คุณใช้สิทธิได้อย่างคุ้มค่า ไม่ต้องสำรองจ่าย” สำหรับผู้ประกันตนทุกคนตามมาตรา 33 และ 39 สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมคือหนึ่งในสวัสดิการที่สำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยสิทธิหลักที่หลายคนทราบกันดีคือสิทธิทำฟันประกันสังคมวงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อปี แต่หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยว่าสิทธินี้ครอบคลุมอะไรบ้าง และควรใช้สิทธิ์อย่างไรให้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด สิทธิประโยชน์ทำฟัน 900 บาท/ปี ครอบคลุมอะไรบ้าง? สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้สิทธิประโยชน์ 900 บาทต่อปี ครอบคลุมการรักษาทางทันตกรรมขั้นพื้นฐาน 4 ประเภทหลัก ดังนี้: ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์เหล่านี้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดปี แต่ค่าใช้จ่ายรวมต้องไม่เกิน 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย ที่ AT U DENTAL CLINIC ในปัจจุบัน ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการทำฟันได้ที่คลินิกและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานประกันสังคม ที่ AT U DENTAL CLINIC ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย นั่นหมายความว่าหากค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่เกิน 900 บาท คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินเลย แต่หากค่าใช้จ่ายเกินวงเงิน เช่น ขูดหินปูนราคา 1,200 บาท คุณก็แค่จ่ายส่วนต่าง 300 บาทให้แก่คลินิกเท่านั้น ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ง่ายๆ ที่คลินิกของเรา: ฟันปลอมก็ใช้สิทธิ์ได้นะ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม นอกเหนือจากสิทธิ 900 บาทแล้ว ประกันสังคมยังมีสิทธิ์เบิกค่าทำฟันปลอมชนิดถอดได้ซึ่งมีวงเงินและเงื่อนไขที่แตกต่างกันดังนี้: ข้อควรรู้: สิทธิ์ทำฟันปลอมจะเบิกได้ทุกๆ 5 ปี และผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วจึงนำเอกสารไปยื่นเบิกเงินคืนที่สำนักงานประกันสังคมในภายหลัง สิทธิ์ที่ยังไม่ครอบคลุม เป็นเรื่องที่ควรรู้ว่ามีหลายการรักษาที่ยังไม่ครอบคลุมในสิทธิประกันสังคม 900 บาท ได้แก่: การทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์เหล่านี้อย่างถี่ถ้วนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้สิทธิที่ได้รับอย่างคุ้มค่าที่สุดที่ AT U DENTAL CLINIC ซึ่งพร้อมให้บริการด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย คลินิกในเครือที่รองรับสิทธิประกันสังคม คุณสามารถเข้ารับบริการทำฟันโดยใช้สิทธิประกันสังคมที่ AT U DENTAL CLINIC ได้ทั้ง 4 สาขาที่ร่วมโครงการ ดังนี้: เพื่อความสะดวกในการเดินทาง คุณสามารถเลือกไปใช้บริการที่สาขาใกล้บ้านหรือที่ทำงานได้เลยค่ะ
โพสต์เมื่อ 20 สิงหาคม 2568

สุขภาพเหงือก: รากฐานที่ถูกละเลย ทำไมการดูแลจึงสำคัญ? สาเหตุ วิธีรักษา และการป้องกันเชิงลึก

ทำไมการดูแลจึงสำคัญ? สาเหตุ วิธีรักษา และการป้องกันเชิงลึก “เจาะลึกทุกแง่มุมของสุขภาพเหงือก: ทำไมการดูแลเหงือกจึงสำคัญกว่าที่คิด? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุของโรคเหงือก อาการที่ควรระวัง และแนวทางการรักษาอย่างละเอียด ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงขั้นรุนแรง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันที่ถูกหลักทันตกรรม เพื่อสร้างรอยยิ้มที่แข็งแรงและยั่งยืน” ในโลกของการดูแลสุขภาพช่องปาก หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับฟันเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขาวสะอาด ความสวยงาม หรือการจัดเรียง แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย คือ “เหงือก” ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานที่คอยยึดฟันให้อยู่ได้อย่างมั่นคง หากปราศจากรากฐานที่แข็งแรงแล้ว ฟันที่ดูสวยงามภายนอกก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน โรคเหงือกจึงนับเป็นภัยเงียบที่ร้ายกาจ เพราะมันสามารถทำลายเนื้อเยื่อและกระดูกที่รองรับฟันได้อย่างเงียบๆ ในระยะเริ่มต้นโดยไม่แสดงอาการเจ็บปวด จนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็อาจสายเกินไป บทความนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่มือที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของสุขภาพเหงือก เพื่อให้คุณเข้าใจและหันมาให้ความสำคัญกับ “รากฐาน” ของรอยยิ้มอย่างแท้จริง ทำไมการดูแลสุขภาพเหงือกจึงสำคัญกว่าที่คุณคิด? การมีสุขภาพเหงือกที่ดีนั้นมีผลกระทบที่กว้างขวางกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังเชื่อมโยงกับสุขภาพโดยรวมของเราอย่างแยกไม่ออก 1. ป้องกันฟันโยกและฟันหลุด: ความเสียหายที่ถอยหลังไม่ได้ หน้าที่หลักของเหงือกคือการทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและยึดฟันให้ติดอยู่กับกระดูกขากรรไกรอย่างมั่นคง เมื่อคราบแบคทีเรียและหินปูนสะสมตัวอยู่ใต้ขอบเหงือกเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ซึ่งกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าทำลายเนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกที่รองรับฟัน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ “เหงือกร่น” (Gum Recession) และ “กระดูกละลาย” (Bone Loss) เมื่อกระดูกรองรับฟันลดน้อยลง ฟันก็จะขาดการยึดเกาะที่แข็งแรง และเริ่มมีอาการโยก ซึ่งในที่สุดก็จะนำไปสู่การสูญเสียฟันอย่างถาวรในที่สุด ซึ่งเป็นความเสียหายที่รักษาได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก 2. ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม: เหงือกคือดัชนีชี้วัดสุขภาพทั้งร่างกาย วิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ได้ค้นพบความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่างโรคเหงือกกับโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้: 3. ลดโอกาสการติดเชื้อ: สร้างเกราะป้องกันให้ร่างกาย เหงือกที่อักเสบคือประตูเปิดให้แบคทีเรียจากช่องปากเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้น ภาวะนี้เรียกว่า “Bacteremia” ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะสำคัญต่างๆ ได้ การรักษาให้เหงือกแข็งแรงจึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันด่านแรกที่สำคัญให้กับร่างกาย 4. เพื่อความมั่นใจในรอยยิ้ม: สุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์ นอกจากผลกระทบทางกายภาพแล้ว สุขภาพเหงือกยังส่งผลต่อสุขภาพจิตและภาพลักษณ์ภายนอกโดยตรง ปัญหาต่างๆ เช่น เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย หรือมีกลิ่นปากเรื้อรัง สามารถทำลายความมั่นใจในการยิ้มและพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างสิ้นเชิง ในทางกลับกัน เมื่อเหงือกแข็งแรง สุขภาพดี เราก็จะกล้ายิ้มอย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลดีต่อบุคลิกภาพและความสัมพันธ์ในสังคม สาเหตุหลักของโรคเหงือก สาเหตุของโรคเหงือกนั้นเริ่มต้นจากสิ่งเดียวกัน นั่นคือการสะสมของ “คราบจุลินทรีย์” (Plaque) และเมื่อปล่อยทิ้งไว้ก็จะกลายเป็น “หินปูน” (Calculus) ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ควรระวัง: อาการของโรคเหงือกที่ควรสังเกตอย่างละเอียด โรคเหงือกแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ซึ่งอาการจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรง 1. โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis): ระยะเริ่มต้นและยังสามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องในระยะนี้ อาการสามารถหายเป็นปกติได้ และเหงือกจะกลับมามีสุขภาพดีดังเดิม 2. โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis): ระยะรุนแรงที่ส่งผลถาวร เมื่อโรคเหงือกอักเสบลุกลามโดยไม่ได้รับการรักษา จะกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งจะเริ่มทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อที่รองรับฟันอย่างถาวร โรคนี้แบ่งได้เป็น 3 ระดับ: อาการอื่นๆ ที่อาจพบในโรคปริทันต์อักเสบ: หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม วิธีรักษาและป้องกันโรคเหงือกอย่างละเอียด การรักษาโรคเหงือกโดยทันตแพทย์: การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลตัวเองทุกวัน: ถาม-ตอบ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคเหงือก เหงือกแข็งแรง นำมาซึ่งฟันและสุขภาพที่แข็งแรง การลงทุนในสุขภาพเหงือกคือการลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวมของคุณในระยะยาว อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ อย่างเหงือกบวมแดงกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ซับซ้อนและรุนแรงในอนาคต สำหรับองค์กรที่ต้องการส่งเสริมสุขภาพพนักงานอย่างแท้จริง AT U DENTAL BUS พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรในการนำบริการทันตกรรมครบวงจรไปให้บริการถึงที่ทำงานของคุณ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพเหงือกและฟันได้อย่างสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลาลางานอีกต่อไป เพราะการป้องกันคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด สนใจปรึกษาหรือวางแผนบริการสำหรับองค์กรของคุณได้เลย
โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2568

10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากคือสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กร

“AT U DENTAL เผย 10 เหตุผลที่การดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานด้วยบริการทำฟันถึงที่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดขององค์กรยุคใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน ศึกษาแนวทางปฏิบัติจากงานวิจัยและสถิติเพื่อยกระดับสวัสดิการพนักงานของคุณ” ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันเพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ซับซ้อนกว่าเดิม จากที่เคยเป็นการต่อสู้ด้วยค่าตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันนี้แนวคิดได้เปลี่ยนไปสู่การให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการพนักงานที่สะท้อนถึงความห่วงใยและคุณภาพชีวิตของคนทำงาน การมอบสวัสดิการพนักงานที่ดีจึงไม่ได้เป็นแค่ค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กร นั่นก็คือ “พนักงาน” AT U DENTAL ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมทันตกรรมเคลื่อนที่ เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง และได้พัฒนา AT U DENTAL BUS หรือรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเป็นโซลูชันที่ทรงประสิทธิภาพในการช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ บทความนี้จะนำเสนอ 10 เหตุผลหลักที่ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในการดูแลสุขภาพช่องปากของพนักงานถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของความห่วงใย แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมขององค์กรในระยะยาว 1. ยกระดับ สวัสดิการพนักงาน ให้เหนือกว่าคู่แข่ง: สร้างความแตกต่างที่ดึงดูดใจ ในปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ยังคงมีสวัสดิการพนักงานด้านทันตกรรมในรูปแบบเดิม คือการมอบสิทธิ์ประกันสังคมซึ่งมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการเบิกจ่าย แต่ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้าถึงบริษัทได้โดยตรง องค์กรจะสามารถนำเสนอสวัสดิการพนักงานที่แตกต่างและโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของผู้สมัครงานและพนักงานปัจจุบัน การให้บริการถึงที่ทำงานช่วยลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพนักงาน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ขององค์กรที่เป็นผู้นำและพร้อมลงทุนเพื่อบุคลากรอย่างแท้จริง จากงานวิจัยของ Mahidol University และ Srinakharinwirot University พบว่าสวัสดิการพนักงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความผูกพันองค์กร ยิ่งสวัสดิการพนักงานมีความพิเศษและตอบโจทย์ชีวิตพนักงานมากเท่าไร ความผูกพันที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น การมีสวัสดิการพนักงานที่โดดเด่นยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสรรหาบุคลากร ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ลดการลาป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: สุขภาพกายดีส่งผลต่อประสิทธิภาพงาน ปัญหาสุขภาพช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดฟัน เหงือกอักเสบ หรืออาการเสียวฟัน ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วย จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่าปัญหาฟันผุและโรคเหงือกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยทำงาน การที่พนักงานต้องลาหยุดงานเพื่อไปพบทันตแพทย์หรือต้องทำงานในขณะที่มีอาการปวดฟัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างมาก (Presenteeism) การนำ AT U DENTAL BUS เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานช่วยให้พนักงานสามารถเข้ารับการรักษาเบื้องต้นได้ทันท่วงที ลดโอกาสในการลาป่วยหรือทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อผลผลิตโดยรวมขององค์กรในที่สุด และนับเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการพนักงานที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด จากรายงานวิจัยหลายฉบับระบุว่า สุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงานส่งผลโดยตรงต่อ Productivity ขององค์กร และการลงทุนในสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว 3. ประหยัดค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น: ลดภาระให้องค์กรอย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายโดยตรงสำหรับบริการทำฟัน แต่การที่พนักงานต้องลาหยุดเพื่อไปพบทันตแพทย์ย่อมก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงมหาศาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หลายองค์กรอาจมองข้ามไป เช่น ค่าจ้างที่ยังต้องจ่ายในขณะที่พนักงานไม่ได้ทำงาน หรือการหยุดชะงักของกระบวนการทำงานที่ต้องใช้พนักงานคนนั้น และอาจรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานชั่วคราวมาทำงานแทน การให้บริการทำฟันถึงที่ช่วยขจัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ AT U DENTAL BUS ยังสามารถบริหารจัดการสิทธิ์ประกันสังคมสำหรับพนักงานได้อย่างราบรื่น ทำให้พนักงานไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และองค์กรไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการจัดกิจกรรมนี้เลย เสมือนเป็นการยกระดับสวัสดิการพนักงานให้กับพนักงานโดยไม่กระทบงบประมาณของบริษัท ซึ่งนับเป็นการจัดการสวัสดิการพนักงานที่ชาญฉลาดและช่วยลดต้นทุนแฝงให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล 4. สร้างภาพลักษณ์นายจ้างที่ใส่ใจ: ดึงดูดและรักษาบุคลากรระดับท็อป ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสาร ภาพลักษณ์องค์กร (Employer Branding) ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อบุคลากรคือสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่การมอบสวัสดิการพนักงานแต่เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างเป็นรูปธรรมที่พนักงานสามารถบอกต่อและสร้างเรื่องราวดีๆ ให้กับองค์กรได้ การที่บริษัทลงทุนในสุขภาพช่องปากพนักงานอย่างจริงจัง ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจและอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงในฐานะ “นายจ้างที่ใส่ใจ” ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีคือภาพสะท้อนของวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ทำให้สามารถดึงดูดผู้สมัครงานที่มีคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย 5. ความผูกพันที่ยั่งยืน: “องค์กรรักเรา เราเลยรักองค์กร” การสร้างความผูกพันองค์กรไม่ใช่แค่การขึ้นเงินเดือนหรือการจัดงานเลี้ยง แต่คือการสร้างความรู้สึกของการเป็น “บ้าน” ที่ดูแลกันและกัน AT U DENTAL BUS เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการสื่อสารอุดมการณ์นี้ เมื่อพนักงานเห็นว่าองค์กรลงทุนในสวัสดิการพนักงานที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของพวกเขาโดยตรงโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างเป็นตัวเงิน ความรู้สึกขอบคุณและความภักดีต่อองค์กรจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า “เมื่อองค์กรรักเรา เราจึงรักองค์กร” ทำให้พนักงานไม่คิดอยากลาออกง่ายๆ และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกันในระยะยาว เพราะสวัสดิการพนักงานที่ดีสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญขององค์กรอย่างแท้จริง 6. เพิ่มอัตราการรักษาบุคลากร: การลงทุนเพื่อลด Employee Turnover การลาออกของพนักงานหนึ่งคนย่อมก่อให้เกิดต้นทุนมหาศาลสำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่ รวมถึงความรู้และประสบการณ์ที่ขาดหายไป การมอบสวัสดิการพนักงานด้านสุขภาพที่โดดเด่นและเข้าถึงง่าย เช่น บริการทำฟันถึงที่ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและกำลังใจให้กับพนักงาน ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้นานๆ คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการสรรหาพนักงานใหม่ในระยะยาว และสวัสดิการพนักงานที่ตอบโจทย์คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ จากสถิติพบว่าอัตราการลาออกที่ลดลงเพียง 1% สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรได้เป็นจำนวนเงินมหาศาลต่อปี การลงทุนเพียงเล็กน้อยในสวัสดิการพนักงานที่มีคุณภาพจึงเป็นการป้องกันการสูญเสียบุคลากรที่มีค่าอย่างยั่งยืน 7. เข้าถึงบริการง่าย ไม่ต้องเดินทาง: ประหยัดเวลาและพลังงานของพนักงาน ปัญหาสุขภาพช่องปากหลายครั้งมักถูกมองข้ามเพราะความยุ่งยากในการไปพบทันตแพทย์ การจราจรที่ติดขัด การหาที่จอดรถ และการลางานล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ การนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการถึงที่ทำงานทำให้พนักงานไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ พนักงานสามารถเข้ารับบริการในช่วงพักกลางวันหรือเวลาที่สะดวกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับสุขภาพองค์กรโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในข้อดีของสวัสดิการพนักงานที่เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพราะการเข้ารับบริการทำฟันเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป 8. ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพระยะยาว: การป้องกันดีกว่าการรักษา ปัญหาสุขภาพช่องปากสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม จากข้อมูลงานวิจัยมากมายพบว่าปัญหาเล็กๆ อย่างฟันผุหรือเหงือกอักเสบอาจลุกลามจนกลายเป็นโรคที่รุนแรง เช่น โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ การที่องค์กรส่งเสริมให้พนักงานเข้ารับการตรวจสุขภาพและขูดหินปูนเป็นประจำ ถือเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงที่พนักงานจะเจ็บป่วยด้วยโรคซับซ้อนและต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นในอนาคต และเป็นอีกมิติของสวัสดิการพนักงานที่คุ้มค่า การดูแลเชิงป้องกันยังช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะต้องลาหยุดงานในอนาคตเพื่อเข้ารับการรักษาที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน
โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2568